ซาฟารีเวิลด์

ธีมปาร์คมาตรฐานโลกหนึ่งเดียวในประเทศไทย บรรยากาศร่มรื่นสวยงาม กว้างใหญ่ในใจกลางกรุงเทพฯ ศูนย์รวมการแสดงยิ่งใหญ่ระดับโลก 7 โชว์ 7 เวที อาทิ โชว์อุรังอุตังชกมวย โชว์สิงโตทะเล โชว์โลมา โชว์นก โชว์สตั้นท์ โชว์สงครามจารกรรม และโชว์ละครสัตว์ ตื่นตาตื่นใจกับล่องเรือจังเกิลครูซ ท่ามกลางป่าดิบอเมซอน บรรยากาศน่าพิศวงนี้ต้องใช้เวลารอคอยนานกว่า 15 ปี และสวนสัตว์เปิด มีสัตว์หายาก ใกล้สูญพันธ์ รวมทั้งสัตว์อนุรักษ์มากกว่า 400 ประเภท จำนวนมากกว่า 4,000 ตัวจากทั่วทุกมุมโลก สัมผัสชีวิตสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ สัตว์ป่าหายากนานาชนิด ใกล้ชิดกับฝูงสัตว์ป่ามากมาย อาทิ ฝูงยีราฟ ม้าลาย กระทิง ควายป่า แรดขาว กวางป่า อิมพาลา และตื่นเต้นกับการแสดงให้อาหารสัตว์ดุร้ายในโซนเสือ สิงโต และหมี ที่คุณไม่ควรพลาด !!!

ตลอดระยะเวลากว่า 16 ปี มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศมากกว่า 27 ล้านคนมาเที่ยวชมดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้ รวมถึงผู้นำระดับประเทศ บริษัท ห้างร้าน องค์กร มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา และโรงเรียนทั่วราชอาณาจักรนับพันแห่งได้มาเยี่ยมชมและทัศนศึกษา ณ ซาฟารีเวิลด์แห่งนี้เป็นประจำตลอดเรื่อยมา

ซาฟารีเวิลด์ 

สถานที่ตั้ง เลขที่ 99 ถนนรามอินทรา บริเวณกิโลเมตรที่ 9 เขตมีนบุรี

ซาฟารีเวิลด์ เปิดบริการทุกวัน
วันจันทร์ -ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 9.00-17.30 น. (เปิดรับรถเข้าซาฟารีปาร์คคันสุดท้ายเวลา 16.30 น.) วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 9.00- 18.00 น. (เปิดรับรถเข้าซาฟารีปาร์คคันสุดท้ายเวลา 17.00 น.)

ค่าบัตรผ่านประตูชุด Package สำหรับผู้ใหญ่ราคา 390 บาท และเด็ก (ความสูง 101-140 ซม.) ราคา 290 บาท

ซาฟารีเวิลด์ 

นอกจากนี้ภายในมารีนปาร์ค มีบริการอาหารฟาสต์ฟู้ดให้ท่านเลือกสรรมากมาย พร้อมเครื่องดื่มและอาหารว่าง หรือจะเลือกอร่อยกับอาหารบุปเฟต์ที่ภัตตาคารจังเกิลครูซผู้ใหญ่ท่านละ 120 บาท เด็ก 80 บาท พร้อมด้วยร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก เกมส์ทาวน์ บริการเช่ารถเข็นสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ และบริการอื่นๆ

สวนจตุจักร

สวนจตุจักร เป็นสวนสาธารณะในความดูแลของกรุงเทพมหานคร ติดกับถนนสำคัญ ได้แก่ ถนนพหลโยธิน ถนนกำแพงเพชร 3 และถนนวิภาวดีรังสิต มีพื้นที่กว้างใหญ่ เปิดบริการให้คนทั่วไปได้เข้ามาใช้เพื่อออกกำลังกาย วิ่ง เดินเล่น ซึ่งแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติและต้นไม้มากมาย ให้ความร่มเย็น นอกจากจะเป็นสวนสาธารณะแล้ว ยังมีพื้นที่อีกส่วนเป็นตลาดนัด สำหรับค้าขายสินค้าที่มีชื่อเสียงมาก ตลาดนัดจตุจักรเป็นแหล่งรวบรวมสินค้าต่างๆ หลากหลายมากมาย ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และสินค้ามีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ของเก่า ของสะสม เสื้อผ้า ต้นไม้ ของแต่งบ้าน เครื่องประดับ

ตลาดนัดสวนจตุจักร

ตลาดนัดจตุจักร สำหรับผู้ที่ชอบซื้อของและต่อรองราคา ซึ่งแบ่งพื้นที่ออกเป็น 26 โครงการ กลุ่มสินค้ามีตั้งแต่ เสื้อผ้า ต้นไม้ ของแต่งบ้าน เครื่องประดับ ของสะสม ของเก่า งานศิลปหัตถกรรม เฟอร์นิเจอร์ สัตว์เลี้ยง หนังสือเก่า อาหารพื้นเมือง สินค้าเบ็ดเตล็ดอื่นๆ อีกมากมาย

ในส่วนของเครื่องประดับ มีตั้งแต่เครื่องเรือนและของสะสมสไตล์ จีนโบราณ ครื่องประดับบ้านแบบของเก่า ประติมากรรมทองเหลือง งานหัตถกรรมแบบไทยแท้ เครื่องแกะสลักจากไม้ ไม่ว่าจะเป็นขอบประตู บานลับแล ช้างแกะสลัก ของตกแต่งบ้านสไตล์เอเชีย ที่นี่มีงานฝีมือให้เลือกจากทั่วโลก ในราคาที่หลากหลาย

ตลาดนัดสวนจตุจักร

ต้นไม้มีตั้งแต่พืชสวนครัว ไม้ประดับ กล้วยไม้ ไม้ดอก ไม้ดัดชนิดต่างๆ และยังมีพันธุ์ไม้อีกมากมายที่คุณสามารถต่อรองราคาในการซื้อได้ โดยส่วนใหญ่แล้วสินค้าจะคล้ายๆ กันเกือบทุกร้าน แต่ถ้าอยากได้อุปกรณ์จัดสวน ที่มีคุณภาพสักหน่อย ลองเดินเลาะเรื่อยมาทางด้านถนนกำแพงเพชร ช่วงที่ติดถนนใหญ่ บริเวณนั้นก็จำหน่าย อุปกรณ์จัดสวนด้วยเช่นกัน

สวนรมณีนาถ

บริเวณนี้ เดิมเป็นที่ตั้งของเรือนจำพิเศษ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เรียกกันว่า เรือนจำกลางคลองเปรม ต่อมาในปี พ.ศ.2515 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีเนื้อที่ 29 ไร่ ปัจจุบันไม่ได้เป็นสถานที่กักขังนักโทษอีกแล้ว เพราะได้มีการยุบเรือนจำลง จัดสร้างและปรับปรุงใหม่เพื่อให้เป็นพื้นที่สีเขียว เป็นสวนสาธารณะและสวนสุขภาพแห่งใหม่ที่สร้างขึ้นในวโรกาสที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา ในปี พ.ศ.2535 อาคารซึ่งสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่เหลืออยู่ และยังคงสภาพดี ได้รับการฟื้นฟูบูรณะเพื่อจัดทำเป็นร้านแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์ของกรมราชทัณฑ์ และพิพิธภัณฑ์ทางด้านทัณฑวิทยา

สวนรมณีนาถ

ชื่อของสวนรมณีนาถ มีความหมายว่า สวนแห่งพระนางผู้เป็นที่พึ่ง ภายในบริเวณสวนมีประติมากรรมสังข์สัมฤทธิ์ ตั้งอยู่กลางสระน้ำพุ โดยอยู่บนตำแหน่งที่สูงที่สุดของสวน สังข์และพานหล่อด้วยโลหะทำผิวสัมฤทธิ์ ภายในบรรจุแผ่นยันต์มหาโสฬสมงคและสังข์องค์จริง นอกจากนี้ยังมีลานอเนกประสงค์ สนามเด็กเล่น ลานออกกำลังกาย ถนนเดินและวิ่ง สำหรับให้ประชาชนเข้ามาใช้พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย

สวนแห่งนี้จัดเป็น สวนสุขภาพ เพราะทางกรุงเทพมหานครได้จัดให้มีจุดฝึกออกกำลัง บริหารร่างกายหลาย ๆ จุด ในระหว่างทางวิ่งภายในสวน เช่น การบริหารมือเปล่า ก้าวขึ้น-ลง ดันขอนไม้ กระโดดข้าม ฯลฯ แต่ละจุดจะมีป้ายบอกจำนวนครั้งและระยะเวลาที่เหมาะสมในการบริหารแจ้งไว้ให้ทราบด้วย

สวนรมณีนาถ

ในส่วนของอาคารเก่าทางด้านถนนมหาไชย ประกอบด้วยอาคาร 4 หลัง คือ ตึกศาลอาญา ตึกรักษาการณ์ ตึกร้านค้ากรมราชทัณฑ์ และอาคารแดน ๙ ได้ทำการอนุรักษ์และปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์และส่วนจัดแสดงของกรมราชทัณฑ์ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
จากเรือนจำกลางคลองเปรม มาเป็น เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และสุดท้าย เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน ในชื่อ สวนรมณีนาถ

แหล่งช็อปปิ้งราคาไม่แพงยามค่ำคืน

ตลาดนัดไฟฉาย

ตลาดนัดไฟฉาย ตลาดนัดสินค้ามือสองที่โด่งดังและเก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพฯ นอกจากมีเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักรอะไหล่รถยนต์ราคาถูกแล้ว สีสันของสินค้ามือสองอย่างเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า กางเกงยีน และของจิปาถะอื่นๆ ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เปิดขายทุกวันเสาร์ตั้งแต่ 5 โมงเย็นถึงเที่ยงคืน

ตลาดสะพานพุทธ

ตลาดสะพานพุทธ ใครเป็นแฟนสินค้ามือสองและสินค้าวัยรุ่นมักจะไม่พลาดตลาดนี้ สินค้าเด่นต้องยกให้เสื้อผ้าวัยรุ่นและกางเกงยีนที่มีทั้งของเก่าและใหม่ รวมถึงร้านต่อผม ร้านสักที่มีลูกค้าแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนไปเคยขาด เปิดขายทุกวัน (เว้นวันจันทร์) ตั้งแต่หกโมงเย็นเป็นต้นไป เดินทางไปด้วยรถตุ๊กตุ๊กหรือรถแท็กซี่สะดวกสุด

ตลาดข้างเมเจอร์รัชโยธิน

ตลาดข้างเมเจอร์รัชโยธิน เปิดตั้งแต่ 4 โมงเย็นถึงเที่ยงคืนทุกวัน เริ่มต้นจากแหล่งขายของมือสอง ตอนนี้มีสินค้าใหม่เกินครึ่ง ขายเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ฯลฯ สาวนักช็อปฯ ซื้อได้สบายๆ ส่วนราคาสามารถต่อรองกันได้ แล้วแต่ความสามารถของแต่ละคน

ตลาดรัชดาไนท์

ตลาดรัชดาฯ ไนท์ ตั้งอยู่ตรงหัวมุมสี่แยกรัชดาภิเษก ตัดถนนลาดพร้าว เปิดทุกวันเสาร์ ตั้งแต่ 1 ทุ่มไปจนถึงเที่ยงคืน มีสินค้าให้เลือกช็อปฯ มากมาย ทั้งของกินสุดอร่อย เสื้อผ้าวัยรุ่น กางเกง กระเป๋า เข็มขัด สินค้า Hand Made สินค้ามือสอง และอุปกรณ์แต่งรถแบบที่มีให้เลือกกันแบบสะใจ แนะนำว่าควรไปโดยรถไฟใต้ดิน ลงสถานีลาดพร้าวทางออก 1 ลาดพร้าว 26 และควรติดไฟฉายไปด้วยจะได้เลือกซื้อของสะดวก

ถนนข้าวสาร

ถือเป็นศูนย์กลางของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็ว่าได้ เพราะถ้าใครที่ชื่นชอบการเดินทาง ถนนข้าวสาร เป็นแหล่งที่พักราคาประหยัดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเป็นจุดนัดพบนักเดินทางทั่วโลกที่มาเที่ยวกรุงเทพฯ และเป็นอีก สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย อีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวต้องแวะเวียนมาให้ได้

ถนนข้าวสาร เป็นถนนในท้องที่แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เชื่อมระหว่างถนนตะนาว และถนนจักรพงษ์

ถนนข้าวสาร

ปัจจุบันถนนข้าวสารเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งมาจากหลายประเทศทั่วโลก ตามถนนเต็มไปด้วยสินค้าต่างๆ มากมายในราคาถูก

ถนนข้าวสาร เดิมเป็นย่านเก่าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 เป็นตรอกที่ขายข้าวสาร เป็นแหล่งค้าขายข้าวสารที่ใหญ่ที่สุดของเขตพระนคร ซึ่งข้าวสารจำนวนมากจะถูกขนส่งมาจากฉางข้าวหลวง สะพานช้างโรงสี ริมคลองคูเมืองเดิม หรือ ปัจจุบันก็คือ คลองหลอด เลียบมาตามแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นที่ท่าเรือบางลำพู เพื่อนำข้าวมาขายให้แก่ชาวบ้านในชุมชนต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้

ถนนข้าวสาร

ต่อมาความเป็นอยู่ของชุมชนแห่งนี้เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาในช่วงปี พ.ศ. 2525 ซึ่งเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองกรุงเทพมหานครครบรอบ 200 ปี ได้เข้ามาเช่าห้องพักอาศัยเพื่อเที่ยวชมเมืองหลวงของไทยในช่วงเทศกาลสำคัญนี้ และเริ่มมีฝรั่งเข้ามามาถ่ายภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด โดยมีทีมงานกองถ่ายมาอยู่กันจำนวนมาก ที่มาเช่าที่ เช่าเกสเฮาส์ ซึ่งตอนนั้นยังไม่มี ก็ต้องเช่าจากบ้านที่อยู่แถวนั้นซึ่งใช้แบ่งเช่า จึงเป็นที่มาของเกสเฮาส์ เกสต์เฮ้าส์ของชาวต่างชาติเริ่มมีมาตั้งแต่ พ.ศ. 2528-2529 ระยะหลังเริ่มมีคนเข้ามาเรื่อยๆ จนกลายเป็นศูนย์รวมของพวกแบ็คแพ็กเกอร์ที่มาท่องเที่ยวประเทศไทย จนเป็นที่โด่งดังในที่สุด

ถนนข้าวสารถือเป็นถนนที่ได้รับความนิยมในการเล่นน้ำวันสงกรานต์ ที่คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลก

พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง มาดามทุสโซ

พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง มาดามทุสโซ ตั้งอยู่บนชั้น 6 สยามดิสคัฟเวอรี่ ถนนพระราม 1 ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330

พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง มาดามทุสโซ

มาดามทุสโซ พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งต้นแบบเจ้าของตำนานกว่า 200 ปีที่ผู้คนทั่วโลกชื่นชอบ คุณสามารถร่วมถ่ายภาพและคลุกคลีอย่างใกล้ชิดกับหุ่นทุกตัวราวกับการพบปะบุคคลสำคัญบนพรมแดง หรือจะท้าประลองกับนักกีฬาคนโปรดและขึ้นเวทีกับนักร้องที่คุณชื่นชอบ ทั้งหมดทำได้ที่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ

พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง มาดามทุสโซ

สิ่งที่น่าสนใจ :
1. ยินดีต้อนรับสู่ความรุ่งเรืองแห่งพระราชวงศ์จักรี

2. นั่งถกเหตุบ้านการเมืองกับ โอบามา ในโอเวิล ออฟฟิส

3. ท้านับแต้มสแลมดังค์กับเหยาหมิง

4. วาดลวดลายแดนซ์ให้เวทีสะท้านไปกับไมเคิล แจ็คสัน

5. โพสต์ท่าท้าปาปารัซซี่กับแพนเค้ก

6. ประกบเคน ธีรเดช กระทบไหล่แอน ทองประสม ในฉากละครโปรด

7. ดื่มด่ำกับดินเนอร์แสนโรแมนติกเคียงข้างจอร์จ คลูนีย์

8. เจาะลึกทุกเบื้องหลังการปั้นหุ่นขี้ผึ้ง พบสุดยอดตำนานประติมากรชั้นเอก แบบตัวจริงเสียงจริง

การเดินทาง : บีทีเอส: สถานีสยาม ทางออก 1 สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ทางออก 3

พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย

พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ตั้งอยู่ใน SCB Park ของธนาคารไทยพาณิชย์ ถนนรัชดาภิเษก ตั้งขึ้นเพื่อแสดงพัฒนาการด้านการเงินการธนาคารของโลก และของชาติไทย มีการจัดแสดงเงินตราต่าง ๆ มากมาย

พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย

พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทยแห่งนี้ ทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องราวเงินตราของไทยในอดีตมาจนถึงปัจจุบันได้เป็นอย่างดี เพราะมีเอกสารสำคัญ และเครื่องมือเครื่องใช้จำนวนมากอันบ่งบอกถึงวิวัฒนาการแห่งความเจริญก้าวหน้าในระบบการเงิน การธนาคารของประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นภาพในอดีตได้อย่างชัดเจน และด้วยตระหนักถึงคุณค่าของความรู้อันสืบเนื่องมาจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของระบบการเงินการธนาคาร ซึ่งเป็นสิ่งล้ำค่าและเป็นของหายากในปัจจุบัน ธนาคารจึงได้จัดสร้าง "พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย" ขึ้นเพื่อจัดเป็นสถานที่ในการจัดแสดงสิ่งของล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ด้านการเงินการธนาคารของชาติ สำหรับเป็นแหล่งค้นคว้าด้านวิชาการ อันเป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นหลัง โดยมี ต้นแบบธนาคารไทยแห่งแรก คือ แบงค์สยามกัมมาจล ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อพ.ศ.๒๔๔๙ ภายในแบ่งออกเป็น ๔ ส่วน คือ

พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย

ส่วนที่ 1 - วิวัฒนาการเงินตรา จัดแสดงและให้ข้อมูลถึงพัฒนาการในการติดต่อแลกเปลี่ยนสิ่งของระหว่างชุมชนมนุษย์ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน

ส่วนที่ 2 – วิวัฒนาการธนาคาร พระบิดาแห่งการธนาคาร พระประวัติกรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย พระกรุณาธิคุณที่พระองค์ได้ทรงริเริ่มก่อตั้งระบบธนาคารในประเทศไทย

ส่วนที่ 3 – ต้นแบบธนาคารไทย บริษัท แบงก์สยามกัมมาจล ทุนจำกัด

ส่วนที่ 4 – ไทยพาณิชย์กับการก้าวเข้าสู่ยุคปัจจุบัน

เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา ๑๐.๐๐–๑๗.๐๐ น. ปิดวันเสาร์ อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ไม่เสียค่าเข้าชม

ฟาร์มโชคชัย

ฟาร์มโชคชัย สถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ตั้งอยู่บนถนนมิตรภาพ-ปากช่อง กิโลเมตรที่ 159-160เป็นฟาร์มโคนม ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในฟาร์มที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย เปิดกิจการการท่องเที่ยวเชิงเกษตรจนได้รับรางวัล แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรดีเด่น รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ครั้งที่ 4 ปี 2545 ที่จะนำทุกท่านเข้าร่วมสัมผัส กลิ่นไอของการทำ ฟาร์มโคนมมาตรฐานขนาดใหญ่ในสถานที่ประกอบการจริงโดยมีผู้นำชมตลอดรายการ นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่จะได้พบกับฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ ฟาร์มแห่งการเรียนรู้ โดยท่านจะได้สัมผัสกับ บรรยากาศ ประสบการณ์ และสาระความรู้ พร้อมทั้งได้รับความเพลิดเพลิน ในวิถีชีวิตของเกษตรกร มาตรฐาน ธุรกิจ ฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ อาทิ เช่น การรีดนมวัวด้วยตัวเอง การแสดงวิถีคาวบอย การชมลีลาของสุนัข ต้อนแกะ การป้อนนมลูกวัว ด้วยตัวเอง และอื่นๆ อีกมากมาย ในฟาร์ม

ฟาร์มโชคชัย

- ชมวิดีทัศน์ประวัติความเป็นมากว่า 40 ปี ของฟาร์มโชคชัย

- ก่อนเข้าสู่ฟาร์มทุกท่านจะต้องผ่านละอองสเปรย์น้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อเป็นการป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ ที่อาจติดมากับเสื้อผ้าและรองเท้า ก่อนเข้าสู่ฟาร์ม

- พิพิธภัณฑ์เครื่องจักรเก่าซึ่งรวมรถที่มีความสำคัญในการบุกเบิกและพัฒนาจนมาเป็นฟาร์มโชคชัยในปัจจุบัน

- เข้าถึงกระบวนการสาธิตการรีดนมด้วยเครื่องรีดนมอัตโนมัติและการสาธิตการรีดนมด้วยมือ พร้อมเก็บเกี่ยวประสบการณ์การรีดนมด้วยมือคุณเอง

- รับฟังการบรรยายกระบวนการผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ และไอศกรีมที่โรงงานผลิตนม

- สัมผัสทัศนียภาพและอากาศบริสุทธิ์ในท้องทุ่งกว้างโดยขบวนรถฟาร์มแทรกเตอร์ชมคอกแม่โคพันธุ์ดี รับรู้เรื่องพืชอาหารสัตว์ และการหมุนเวียนทรัพยากรน้ำภายในฟาร์ม

- สนุกสนานกับเกมการละเล่นนานาชนิดในวิถีชีวิตแบบคาวบอย ตื่นตาตื่นใจกับการต้อนโคสไตล์คาวบอย ในบรรยากาศท้องทุ่งเลี้ยงสัตว์เขียวขจี ค้นพบประสบการณ์ขี่ม้าที่ให้คุณโพสท่าเป็นคาวบอยได้อย่างจุใจ

- หฤหรรษ์กับการแสดงอันน่ารักของสุนัขต้อนแกะ และชมการฝึกสุนัขนานาพันธุ์ สนุกสนานเพลิดเพลินที่สวนสัตว์เปิดขนาดย่อม กับหลากหลายกิจกรรม อาทิเช่น การป้อนอาหารกวาง กระต่ายและการป้อนนมลูกโคตัวน้อย รวมทั้งการแสดงของสัตว์แสนรู้ อีกมากมายที่คุณต้องประทับใจ

- แวะอิ่มอร่อยด้วยสเต็คเลิศรสหลากเมนู ที่โชคชัยสเต็คเฮ้าส์ หรืออีกหนึ่งทางเลือกที่สเต็คเบอร์เกอร์ เนื้อนุ่มเต็มคำ ฝีมือคนไทยและปิดท้ายด้วยผลิตภัณฑ์นมพาสเจอร์ไรส์ และไอศกรีมนมสด

ค่าเข้าชม คนไทย ผู้ใหญ่ 250 บาท เด็ก 120 บาท (สูงไม่เกิน 140 ซ.ม.) - มีรถฟาร์มแทร็กเตอร์บริการ พร้อมเจ้าหน้าที่นำชม

เมืองโบราณ

เมืองโบราณ

เมืองโบราณจังหวัดสมุทรปราการ
เมืองโบราณเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ เริ่มก่อสร้างเมื่อปลายปี 2506 ตั้งอยู่ในเขตตำบล บางปูใหม่ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 33.5 ถนนสุขุมวิท (สายเก่า) ห่างจากตัวจังหวัด 8 กิโลเมตร เป็นศูนย์รวมปูชนียสถาน ที่สำคัญ ๆ ของแต่ละจังหวัด เช่น เขาพระวิหาร ปราสาทหินพนมรุ้ง วัดมหาธาตุสุโขทัย พระพุทธบาทสระบุรี พระธาตุ เมืองนคร พระธาตุไชยา เป็นต้น

เมืองโบราณ สมุทรปราการ

การเดินทาง - เมืองโบราณ
รถส่วนตัว ใช้ถนนสายสำโรง – สมุทรปราการ ถึงสามแยกสมุทรปราการให้เลี้ยวซ้าย ไปตามถนนสุขุมวิท สายเก่า (ไปทางบางปู) ประมาณกิโลเมตรที่ 33ห่างจากปากทาง ประมาณ 8 กิโลเมตร เมืองโบราณจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ

รถโดยสารประจำทางปรับอากาศ สาย ปอ. 11 (ปิ่นเกล้า – ปากน้ำ) ไปลงปลายทาง แล้วต่อรถเมล์เล็กสาย 36 ผ่านเมืองโบราณ

เมืองโบราณเปิดให้เข้าชมทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. อัตราค่าบัตรผ่านประตูผู้ใหญ่ ราคา 50 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ราคา 25 บาท อายุต่ำกว่า 5 ปี ไม่เสียค่าเข้าชม ค่านำรถผ่านเข้าชมคันละ 50 บาท รถตู้ 100 บาท รถบัส 200 บาท

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทเมืองโบราณ จำกัด ตำบลบางปู กิโลเมตร ที่ 33.5 โทร. 323 – 9253

พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน

พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน

พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน หรือบ้านของนายจิม ทอมป์สัน เจ้าแห่งผ้าไหมไทย ที่อุทิศตัวฟื้นฟูการทอผ้าไหมด้วยมือ จนทำให้ผ้าไหมไทยเป้นที่รู้จักกันไปทั่วโลกนั้น ประกอบไปด้วยเรือนไม้สัก 6 หลัง ที่มีความงดงาม และสถาปัตยกรรมไทยบ้านส่วนใหญ่มีอายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี ซึ่งถูกรื้อถอนจากอยุธยา และนำมาปลูกไว้ในที่ปัจจุบัน มีข้าวของมากมายที่คุณจิม ทอมป์สัน สะสมเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นไม้แกะสลัก ที่หาได้ยากและเก่าแก่ ตุ๊กตาหินสลัก เครื่องเบญจรงค์ เครื่องเคลือบดินเผา ผ้าไหมไทย และภาพเขียนจากช่างไทยโบราณ ฯลฯ

นายจิม ทอมป์สัน (James H. W. Thompson) ผู้ก่อตั้งร้านผ้าไหมไทย “จิม ทอมป์สัน” ที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลกเดิมทางมาประเทศไทยครั้งแรกในฐานะทหารอาสา สมัครของกองทัพสหรัฐฯ ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อสงครามยุติเขาจึงกลับมาดำเนินธุรกิจค้าผ้าไหมในประเทศไทย

แผนที่บ้านจิม ทอมป์สัน

หลังจากตัดสินใจอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นการถาวร เขาซื้อ บ้านทรงไทยภาคกลาง 6 หลังจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาปลูกใหม่ในกรุงเทพฯ ที่ริมคลองแสนแสบ ตัวบ้านแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นบนเป็นห้องอาหาร ห้องนั่งเล่นห้องอ่านหนังสือ ห้องนอนสำหรับแขกและห้องนอนของเขาสิ่งของที่ตกแต่งภาย ในสะท้อนถึงความสนใจในวัฒนธรรมโบราณวัตถุและศิลป วัตถุทางเอเชียของเขาเป็นอย่างมากส่วนชั้นล่างจัดเป็นห้อง เบญจรงค์แสดงเครื่องเบญจรงค์เครื่องเคลือบดินเผาสีน้ำเงิน ขาวของจีน และบ้านรูปภาพจัดแสดงภาพเขียนโดยช่างไทยในปี 2403 แสดงถึงชีวิตความเป็นอยู่ในสมัยนั้น

พิพิธภัณฑ์จัดตั้งขึ้น หลังจากการหายตัวอย่างลึกลับของเขาในประเทศมาเลเซีย บ้านไทยหลังนี้และผ้าไหมจิมทอมป์สันจึงเป็นเสมือนมรดกของความกลมกลืนระหว่าง ความเป็นตะวันออกกับตะวันตกที่จิม ทอมป์สันสร้างสรรค์เพื่อเป็นตัวแทนของเขาต่อประเทศไทย

สถานที่ตั้ง
6 ซ. เกษมสันต์ 2 ถ. พระราม 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทรศัพท์ : (662) 216-7368 โทรสาร : (662) 612-3744

บ้าน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช

บ้าน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช

บ้านซอยสวนพลู เป็นที่รู้จักกันดีว่า เป็นบ้านอดีตนายกรัฐมนตรีบุคคลสำคัญคนหนึ่งของเมืองไทย ท่านได้ใช้บ้านนี้เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย และรับรองแขกบ้านแขกเมืองจนถึงกับระดับผู้นำประเทศ มาจนถึงท่านถึงแก่อสัญกรรมในปี พ.ศ.2538 ซึ่งเป็นสถานที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

บ้านของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นบ้านเรือนไทยโบราณ อายุกว่า 200 ปี อยู่ในพื้นที่ขนาด 5 ไร่ ซึ่งได้รับการดูแลและตกแต่งอย่างสวยงามเหมาะแก่การใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญ และงานสังสรรค์ การตกแต่งบ้าน และการจัดแบ่งประโยชน์ใช้สอยในส่วนต่างๆ ของบ้านโดยท่านเจ้าของบ้านเอง เป็นแบบอนุรักษณ์ไทย แต่ยังคงไว้ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกสมัยใหม่ เช่นการใช้เครื่องปรับอากาศ และห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์ที่ทันสมัย โดยไม่สูญเสียบรรยากาศจากภายนอก ตัวอย่างเช่น การจัดพื้นที่บริเวณโถงล่าง ของตัวบ้านซึ่งเปิดเป็นโถงโปร่ง ตามแบบบ้านไทยโบราณ สิ่งก่อสร้างที่แลดูแปลกตาที่สุด มีเพียงอาคาร 2 ชั้น ขนาดเล็กซึ่งสร้างเป็นลิฟต์ สำหรับท่านเจ้าของบ้าน ได้ใช้ในยามที่สุขภาพอ่อนล้าเกินกว่าจะใช้บันไดทางขึ้นด้านหน้า ซึ่งเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า ท่านใช้บ้านหลังนี้เป็นที่พักอาศัย ไม่ใช่เป็นสถานที่สำหรับจัดแสดง

บ้าน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช

อาคารด้านหน้ามีโถงขนาดใหญ่ซึ่งปลูกขึ้นในภายหลังเพื่อใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆ เช่นพิธีกรรมทางศาสนา เป็นที่ฝึกอบรมโขนธรรมศาสตร์ และใช้เป็นสถานที่จัดเลี้ยงต้อนรับบุคคลสำคัญที่มาเยี่ยมเยือน ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นผู้ที่มีรสนิยมเป็นเลิศ และชื่นชอบในงานศิลปะที่หลากหลาย สังเกตได้จากของสะสมของท่าน และด้วยความชื่นชอบในไม้ดัด และเขามอ และพันธ์พืชแปลกๆ จึงทำให้ เป็นสิ่งดึงดูดใจแก่ผู้เยี่ยมชมบ้านมากยิ่งขึ้น